#จากสิบสู่อนันต์ ล้วงลึกข้อมูลที่ไม่เคยถูกเปิดเผย ครั้งแรกจากปากคำผู้ก่อตั้ง และบรรดาขุนพลผู้ร่วมปลุกปั้นเสียวหมี่ "มีงานที่ต้องทำไม่รู้จักจบ มีพื้นที่ให้จินตนาการไม่รู้จักหมด" - เหลยจวิน ผู้ก่อตั้งและซีอีโอเสียวหมี่ การได้เฝ้าดูเส้นทางของสตีฟ จ็อบส์ แห่งแอปเปิลที่อีกฟากสมุทร กระพือไฟฝันของเด็กหนุ่มวัย 17 ปี ในคณะคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยอู่ฮั่นอย่างบ้าคลั่ง ยี่สิบกว่าปีต่อมา แบรนด์เสียวหมี่ซึ่งแปลว่า “เมล็ดข้าวเล็กๆ” ถือกำเนิดขึ้น เหลยจวินที่เพิ่งผ่านชีวิตทางธุรกิจบาดเจ็บและมืดมนที่สุดประกาศว่า "เสียวหมี่จะเป็นบริษัทสุดท้ายในชีวิตของเขา" เพียงชั่วพริบตาของโลกธุรกิจ แบรนด์เล็กๆ ที่ตอนแรกไม่มีซัพพลายเออร์ อยากขายแม้แต่นอตสักตัวให้ได้ กลายเป็นสตาร์ตอัปที่เติบโตเร็วที่สุดของจีน และเป็นบริษัทอายุน้อยที่สุดที่ทะยานสู่ทำเนียบบริษัทยอดเยี่ยม 500 บริษัทของโลก บุกทั้งตลาดสมาร์ตโฟนและกลายเป็นแพลตฟอร์ม loT สุดยิ่งใหญ่ที่ขาย “สากกะเบือยันเรือรบ” ตั้งแต่หูฟัง เครื่องฟอกอากาศ ผลิตภัณฑ์ออกกำลังกาย ตู้ปลา ไปจนถึงที่นอนอัจฉริยะ ครองใจตลาดโลกด้วยดีไซน์และราคาที่สะเทือนทั้งตลาดซูเปอร์แบรนด์ไปจนฝังกลบสินค้าลอกเลียนแบบ ขยายอาณาจักรอย่างชาญฉลาดผ่านแบรนด์พาร์ตเนอร์ด้วยโมเดลที่เรียกว่า “อีโคเชน” บนเส้นทางนั้น เสียวหมี่ทบทวนเป้าหมายของตนครั้งแล้วครั้งเล่า • ทำสิ่งที่เป็นไม่ได้ • ให้ผู้คนได้มีความสุขกับของดีราคาครึ่งเดียว • พลิกระบบการผลิต • เปลี่ยนความคิดเรื่องดีไซน์ของสินค้าจีน นี่คือเรื่องราวของการรักษาจิตวิญญาณอันกระหายและแสนเบิกบานของนักสร้างสรรค์วัยหนุ่มสาว การค้นหาจังหวะก้าวที่เหมาะสม การเดินหมากทางธุรกิจอันปราดเปรื่อง และที่สำคัญ การค้นหามูลค่าที่แท้จริงของคุณในวันที่แบรนด์ที่โลกรักเบียดเสียดกันจนดูเหมือนไม่เหลือพื้นที่ให้คุณอีกแล้ว...‼