ภาพข่าวหน้าหนึ่ง และข่าวตามเว็บไซด์ คงหนีไม่พ้นที่จะต้องเล่นข่าวนี้ ข่าวงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ สวยเริด อลังการของ ภาคี & น้ำใส นางแบบสาวสวยสุดเซ็กซี่ในวงการนางแบบขณะนี้ ส่วนภาคี เป็นหนุ่มที่ฮอตสุดๆ ในขณะนี้ เขาเป็นทายาทคนเดียวของตระกูล ธมชนันท์กาจ ที่ครองตลาดธุรกิจเครื่องดื่มที่ยิ่งใหญ่ของเอเชีย ซ้ำยังเป็นหนุ่มไฮโซที่สาวๆ ต่างหมายตาจับจ้องเป็นเจ้าของเขา แต่สุดท้าย น้ำใส กลายเป็นผู้หญิงที่โชคดีคนนั้น ผู้หญิงที่คนทั้งประเทศอิจฉา วันแต่งงานที่มีการทำข่าวตั้งแต่การลองชุดแต่งงาน การจัดทำการ์ด การไปลองชุดแต่งงาน จนถึงวันแต่งงานที่เริ่มตั้งแต่ตีสี่ แบบจีน ยกน้ำชาตั้งแต่เช้า และแบบไทยในตอนสายทำบุญตักบาตร รดน้ำสังข์ และการเลี้ยงฉลองแต่งงานที่มีงานปาตี้เต้นรำหลังงานแต่งงานอีกด้วย เรียกว่า ไม่มีงานแต่งงานของใครที่จะเทียบกับการแต่งงานของภาคีและน้ำใสได้เลยจริงๆ ภาพข่าววันนี้ลงหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ เช่นเดียวกับภาพขาวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์วันนี้ ข่าวการหย่าร้างของเขาและเธอเช่นกัน น้ำใสมองใบหย่าในมือใจสั่นหวิวๆ ความรัก ในอกจุกแล้วจุกอีกกับความไม่ซื่อของเขากับความรักที่เธอมีให้ มือสั่นไหวๆ กับใบหย่าที่พยายามทำใจยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งที่เธอพยายามประคับประคองชีวิตคู่ ครอบครัวให้ดีที่สุด แต่นั่นแหล่ะ ต่อให้รักมากแค่ไหน ให้จริงใจมากแค่ไหน ให้ห่วงใยมากแค่ไหน ถ้าเขายังไม่รู้จักพอ ยังไม่รู้จักหน้าที่ของสามีที่ดี คงยากที่จะเดินร่วมทางกันต่อไปได้ น้ำใสหลับตา ให้น้ำตาหยดลงแก้มเป็นหยดสุดท้าย เพื่อวันพรุ่งนี้ วันพรุ่งที่จะมีเธอและลูกน้อยสองคนเท่านั้นที่จะอยู่เพื่อกันและกันตลอดไป เธอจะเป็นทั้งพ่อและแม่ให้ลูกน้อย น้ำหวาน ลูกสาววัย 2 ขวบ กำลังน่ารัก เป็นแก้วตาดวงใจของพ่อแม่ ปู่ย่า และตายายที่เพิ่งจากไปเมื่อน้ำหวานได้ไม่ถึงขวบ “คุณน้ำใสครับ” เสียงทนายเข้ามาเรียก ทำให้หญิงสาวได้สติ ซึ้ดน้ำมูกเบาๆ กระพริบตาไล่น้ำตาออกจากเป้าตา ยกมือปาดมันออก แม้ตาจะแดงใต้แว่นตาสีดำ แต่เธอก็หันมายืดอกรับความจริง ยิ้มให้ทนายความ “ค่ะคุณทนาย” “นี่เป็นเช็คค่าเลี้ยงดูที่คุณภาคีจ่ายให้เดือนหน้าครับ ส่วนเดือนต่อๆ ไปทางคุณภาคีจะโอนเข้าบัญชีธนาคารให้ครับ” เธอก้มมองเช็คเงินสดในมือทนายความ ยื่นมือไปรับ แม้จะไม่อยากได้เงินของเขาสักบาท แต่นี่เป็นหน้าที่ หน้าที่ของพ่อที่เขาจะต้องร่วมรับผิดชอบชีวิตลูกน้อยที่เกิดขึ้นมาจากความรักของทั้งสอง แม้ความรักนั่นจะไม่เหมือนเดิมแล้วก็ตาม “ขอบคุณค่ะ” “แล้วนี่จะกลับเลยไหมครับ ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว หนังสือสัญญาและเอกสารต่างๆ ในเรื่องสินสอดและสมบัติอยู่ที่ผมเรียบร้อยหมดแล้ว” “ดีค่ะ ช่วยจัดการให้เรียบร้อยด้วยนะคะ เดี๋ยวน้ำใสกลับบ้านเลยค่ะ เป็นห่วงน้ำหวาน ทิ้งไว้กับพี่เลี้ยงทั้งวันแล้ว” “ครับ” ทนายความพยักหน้า พร้อมยกมือรับไหว้หญิงสาวลูกความของเขาที่มีปัญหาชีวิตเหมือนคู่ไฮโซหลายๆ คู่ ก่อนแยกย้ายกันไปจากหน้าสำนักงานเขตแห่งนั้น ขณะที่สามี ไม่สิ ต้องเรียกว่าอดีตสามีของเธอเดินลงมาจากสำนักงานเขต โดยมีเพื่อนที่เป็นนายทะเบียนเดินลงมาส่ง ภาคีมองร่างบางเซ็กซี่ในชุดดำที่เธอจงใจใส่มาไว้ทุกข์กับความรักในวันนี้ เดินขึ้นรถเก๋งคันโปรดที่เขาซื้อเป็นของขวัญวันเกิดให้เธอด้วยใจที่หายแวบไปพักหนึ่ง “แน่ใจนะว่านายทำถูกแล้ว” ดำเริก นายทะเบียน เพื่อนของภาคีตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมแล้วหันเหมาสมัครเป็นข้าราชการ ภาคหันมองเพื่อนสนิท “ทำไมนายถามกันแบบนี้ล่ะ” เขาทำเหมือนไม่เข้าใจ หรือไม่เข้าใจจริงๆ เพราะกำลังสับสนในสิ่งที่ตัดสินใจ “คุณน้ำใสเป็นคนดี เก่ง และเป็นแม่ที่ดี กันว่านายคิดผิดที่ปล่อยเธอไป สักวันนายจะเสียใจที่ตัดสินใจในวันนี้” ดิเรกตอบตามที่อยากพูดกับเพื่อนสนิทมานานแล้ว แม้จะได้ยินข่าวของทั้งสองทางสื่อสังคมก็ตาม แต่นิสัยส่วนตัวที่เขารู้จัดกภาคีเป็นอย่างดี จึงอยากเตือนเพื่อน “ใช่เธอเป็นคนดี กันยอมรับ แต่กันคิดว่าเราสองคนไปกันต่อไม่ได้ เธอเป็นคนดีเกินไป” นั่นเป็นคำตอบของภาคี ก่อนจะกดรับสายที่โทรเข้ามาพอดี ภาคีมองเบอร์แล้วหันมองหน้าเพื่อน โบกมือเดินห่างออกไป แต่ดำเรกยังทันได้ยินคำทักทายที่ภาคีเอยออกมา “ไงที่รัก ผมกำลังจะกลับแล้ว เดี๋ยวเจอกันที่คอนโดฯ นะ” ดิเรกถอนใจ ส่ายหน้ากับพฤติกรรมของภาคีที่มากเกินจนต้องปล่อยผู้หญิงดีๆ และลูกน้อยไปจากชีวิต ทำเขาอดสงสารภาคีไม่ได้ “สักวันนายจะคิดถึงคำพูดของกันภาคี” ดิเรกได้แต่ทำใจ ถอนใจ เดินกลับเข้าสำนักงานทำงานต่อ ในหัวคิดถึงภรรยาและลูกน้อยที่เป็นแก้วตาดวงใจ ทำให้เขายิ้มออกมาโชคดีที่เขาไม่มีนิสัยเจ้าชู้