รู้ไหมครับว่ากว่า 80% ของคนสูงอายุที่ผ่านชีวิตมามากมาย พวกเขาไม่ได้เสียดายเรื่องที่ทำลงไป แต่พวกเขาทั้งหมดเสียดายเรื่องที่ไม่ได้ทำ และเมื่อได้ถามลึกลงไปอีก คือพวกเขาไม่กล้าพูดในสิ่งที่ตัวเองคิด เพราะพวกเขาไม่มีวิธีการสื่อสารที่ดีพอ ให้คนรอบข้างหรือคนที่สามารถให้โอกาสเขาได้ฟัง บางครั้งตัดสินใจพูดไป แต่ก็ไม่มีใครสนใจ เพราะไม่มีทักษะการโน้มน้าว พอหลายๆครั้งเข้า ก็เลือกที่จะไม่พูดดีกว่า เลยเป็นผลให้ไม่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองคิด สุดท้ายจึงมาเสียดาย แต่สำหรับคนที่พูดเป็น พูดมีเสน่ห์ พูดด้วยความมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือโอกาสใหญ่ๆ เขาจะรู้วิธีการสื่อสารเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการเสมอ และเพียงแค่คำพูด สามารถที่จะสร้างทางเลือกที่ดีกว่าให้ชีวิตได้ ยกตัวอย่างสมัยตอนวัยเรียน แล้วเราไปเที่ยวกับเพื่อนๆคนที่กล้าพูด กล้าบอกความคิดเห็น พร้อมเหตุผล (ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่เหตุผลที่ดีก็ตาม) แต่ทิศทางการตัดสินใจของกลุ่ม ทั้งเลือกสถานที่กิน ที่เที่ยว ที่แวะพัก ก็มักจะเอนไปทางคนเหล่านั้นเสมอ ย้อนกลับมาปัจจุบัน ในวัยทำงาน ไม่ว่าคุณจะอยู่ในตำแหน่งอะไร จะเป็นเพียงพนักงาน คนในทีม ผู้บริหาร เจ้าของกิจการ ย่อมต้องมีการแสดงความคิดเห็นกำหนดทิศทางการตัดสินใจอยู่เป็นประจำ อยากให้ทุกท่านลองนึกย้อนดูว่า ในแต่ละเดือน แต่ละสัปดาห์ เราต้องมีการเสนอความเห็นเพื่อตัดสินใจกี่ครั้ง คำถามสำคัญคือ จากจำนวนทั้งหมด มีกี่ครั้งที่เราสามารถพูดโน้มน้าว จนคนร่วมวงสนทนาเห็นด้วยและยอมทำตามความคิดเรา “ถ้าคุณทำเรื่องเล็กๆในชีวิตแบบไหน เรื่องอื่นๆในชีวิตมันก็จะเป็นแบบเดียวกัน” เป็นคำพูดของ T Harv Eker ที่ผมเห็นด้วยมาก ถ้าคุณไม่สามารถขายไอเดีย ขายความคิดของคุณให้ใครได้เลย วันนึงคุณก็จะกลายเป็นคนแก่ที่มานั่งเสียดายเหมือนต้นเรื่องที่ผมเล่า แต่ถ้าคุณอยากได้ชีวิตในแบบที่ต้องการ คุณต้องเริ่มเปลี่ยนตัวเอง ตั้งแต่วันนี้ ตอนนี้ หนังสือเล่มนี้จะบอกตั้งแต่วิธีคิด Mindset วิธีทำ แนวทาง ให้คุณได้เดินตามทีละก้าว จนกระทั่งคุณไปได้สูงกว่าตัวเองในปัจจุบัน เพื่อเป็นคนที่ดีกว่า ผมจึงอยากแนะนำให้คุณอ่านทีละบท แล้วเอาไปปรับใช้ทันที input ให้เยอะ แล้ว output ให้เยอะกว่าเป็นเท่าตัว แล้วคุณจะได้พัฒนาจริงๆจากหนังสือเล่มนี้ ขอให้คุณเป็นคนที่ดีกว่าเดิมในเร็ววัน แล้วพบกันครับ Thapon Apijiraput