เนื่องจากฉางฟงตั้งกิลด์ใหม่ขึ้นมาชื่อว่า กิลด์ Devil เพื่อต่อกรกับกิลด์ GODSEVEN จึงต้องใช้เงินจำนวนมาก เขาจึงคิดวิธีหารายได้ที่ได้เงินเร็ว และได้มาก แน่นอนวิธีการต้องสุดบรรเจิด ไม่มีใครเหมือน และไม่มีใครเขาทำกัน นั่นคือเจ้าตัวแสบสร้างแบรนด์อาหารที่ทำจากเนื้อสัตว์อสูรขึ้นมา และโปรโมตสินค้าโดยการจัดแคมเปญให้ลูกค้ามากินฟรี โดยมีไบรท์เป็นหัวเรือใหญ่ในการจัดแคมเปญ เท่านั้นยังไม่พอ ฉางฟงยังไปบิวต์และสร้างสถานการณ์ให้เถ้าแก่ร้านขายเหล้าเข้าใจว่ากะแช่ของเขารสชาติสุดยอด จนเถ้าแก่อยากได้ไว้ขาย เมื่อสบโอกาส ตัวแสบของเราก็ทำเป็นลดราคาให้เถ้าแก่ แต่ที่จริงหักต้นทุนแล้วกำไรบาน เหตุการณ์ในยุทธภพที่น่าสนใจอื่นๆ คือ จอมปราชญ์อาวุธ หนึ่งในสี่ยอดฝีมือปรากฏตัวขึ้น และเข้าร่วมกับกิลด์ผีเสื้อรับมือกิลด์ GODSEVEN ที่ผิดสัญญา บุกมารุกรานผู้เล่นของกิลด์ผีเสื้อ ทว่าจอมปราชญ์อาวุธคาดการณ์ผิด มู่หลานโดนมือสังหารของกิลด์ GODSEVEN ถล่มจนบาดเจ็บสาหัสเกือบตาย ความเด่นของเล่มนี้คือ มีความดรามาเข้ามากระชากอารมณ์ให้ซึ้งจนน้ำตาเล็ด ทั้งความรักฝังใจของเทพกระบี่เวรตะไลที่มีต่อไรอา รองหัวหน้ากิลด์ GODSEVEN แม้เธอจะเปลี่ยนไปแล้ว แต่เขาไม่เคยลืมเธอได้เลย และเมื่อเธอมาสนิทสนมกับฉางฟง เขาก็ยิ่งปวดใจ จนเกือบทำอะไรโง่ๆลงไป ดีที่มียูมิคอยเตือนสติ ส่วนไรอาก็ดันมาปิ๊งฉางฟงจนถอนตัวไม่ขึ้น แต่ด้วยอุดมการณ์ที่ขัดแย้ง และอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน เธอจึงต้องเก็บความรักไว้ในหัวใจ ในตอนท้ายของเรื่องฉางฟงกับซินเวียหาทางเข้าไปในถ้ำเพนกวินได้แล้ว และได้อาวุธมาร 3 เล่ม กับอาวุธเทพ 4 เล่ม มา แต่อนิจจา มันไม่ใช่ของฉางฟง เขาต้องหาเจ้าของตัวจริงของมันให้เจอ แต่ระหว่างที่อาวุธทั้งเทพและมารอยู่กับเขา พวกมันก็ตีกันตลอดจนฉางฟงประสาทกิน ขณะที่ฟางฟางกับยูมิพยายามผูกมิตรกับเจ้าอาวุธมีชีวิตนี้อยู่ตลอดเวลาเพื่อจะได้ครอบครองมัน แต่มันก็เล่นตัวเชิดใส่ แถมยังทำร้ายเอาอีก แม้แต่ฉางฟงยังสั่งมันไม่ได้ ก็ต้องลุ้นกันว่าใครจะได้อาวุธเหล่านี้ไปครอง