0 Ratings

เพิ่มไปรายการที่ชอบ

สำนักพิมพ์ :

หมวดหมู่ :

ราคา

ซื้อฉบับนี้ : 159.00 ฿

เกี่ยวกับ

"สวัสดี เราชื่อแสนดี เป็นนักศึกษาสาวสุดสวยแต่ไม่เซ็กซี่ เพราะอะไรน่ะหรอ? ก็เก็บงำทุกอย่างไว้ใต้ร่มผ้ากับชุดโคร่งๆของตัวเองยังไงกันล่ะ!! ไอ้ที่บอดว่าสวย อันนี้ไม่ได้พูดเองนะ เพื่อนเราต่างหาก รวมถึงคนรอบข้างด้วยที่ต่างก็พากันบอกว่า เราสวย(ยิ้มอ่อน)" "อีกสาเหตุก็คงเพราะไม่แต่งตัวหรือแต่งหน้าเลยแม้แต่นิดเดียว ลิปสติกอันน้อยนิดยังไม่แลมอง ด้วยความขี้เกียจและไม่มีเป้าหมาย ว่าจะแต่งไปเพื่ออะไร ก็ไม่ได้อยากให้ใครมาชอบนิ ไม่ได้อยากมีแฟน อยากใช้ชีวิตไปวันๆ เรียนให้จบก็แค่นั้น" "เห็นแบบนี้ เราเป็นคนขี้เล่นม๊ากมาก เป็นลูกสาวคนเดียวของบ้าน ที่ถูกขับไส ไล่ส่งและบังคับให้มาเรียนที่กรุงเทพ! ตอนนี้เรากำลังเข้าศึกษามหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 1 ในคณะเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ สาขา ไอทีธุรกิจ ชีวิตรันทดเริ่มขึ้น เมื่อพ่อแม่ที่เคยตามใจเรามาตลอดทั้งชีวิต ใจร้ายให้เรามาเรียนไกลบ้าน" "วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรกของเรา เราอยู่หอกับเพื่อนอีกสามคน แต่อยู่คนละห้อง เพราะเพื่อนของเรามีแฟนกันหมดแล้ว พวกเราเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่มัธยมต้น จนตอนนี้ขึ้นมหาลัยปีหนึ่งแล้ว ก็เป็นระยะเวลาประมาณหกปีที่คบหาเป็นเพื่อนกันมาซึ่งพวกเราทั้ง สี่ คนนั้นสนิทกันมาก การที่เรามาเรียนสาขานี้คณะนี้ก็มีพวกมันสามคนนี่แหละที่มาเรียนด้วยกัน โดยเพื่อนของเรามีชื่อว่า ซี ปอนด์ ทิม(ผู้ชาย) และความรักของเรามันเริ่มขึ้นตั้งแต่เราได้เหยียบเข้ามาในมหาวิทยาลัยนี้นั่นเอง!" "เช้าวันเปิดเรียน" "8:45 นาที" "วันนี้เรามีเรับน้องประมาณ 9:00 น. แต่ทว่าวันนี้เราออกมาค่อนข้างสายพอสมควร เพราะว่าไอ้ซีเพื่อนตัวดีของเรามันแต่งตัวช้ามาก มัวแต่นั่งแต่งหน้าอยู่นั่นแหละ แต่เรานี่สิไม่รู้จักหรอกการแต่งหน้า เห็นแล้วก็รำคาญตา การไปมหาวิทยาลัยของแสนดี คือหวีผม ทาแป้งมาก็ถือว่าจบแล้ว" "ซีมันเป็นผู้หญิงที่รักสวยรักงามค่อนข้างจะเป็นคนแต่งตัวเก่งซึ่งต่างกับเรามากที่ไม่แต่งตัวอะไรเลยออกจากโก๊ะๆซะด้วยซ้ำ" "ปอนด์มันเป็นคนปากหมามากแต่มันคือที่จะปกป้องเพื่อนเสมอ ส่วนทิมมันจะตัวติดกับเราพอสมควรถึงแม้มันจะเป็นผู้ชายที่แมนทั้งแท่งก็ตาม แต่มันทุกคนมีแฟนหมด ยกเว้นเรา! โสดจ้าแม่!" "ส่วนเราน่ะหรอ เบ๊อะบ๊ะซุ่มซ่าม ที่สำคัญกินเก่งมาก แถมยังโดดเด่นเรื่องหน้าตา! คิคิ" "ซีมึงอ่ะช้าจะแต่งสวยอะไรนักหนาวันนี้ต้องรับน้องยังไงมันก็ต้องเล็กมึงจะแต่งสวยไปทำไมเนี่ย!"เราพูดพร้อมหอบกระเป๋าวิ่งมาที่ป้ายรถเมล์ "มึงจะบ่นกูตั้งแต่มอสี่ยันปีหนึ่งไม่ได้นะ!! กูก็รีบที่สุดแล้ว"ซีเถียงกลับพร้อมวิ่งตามเรามาติดๆ "ไปๆๆขึ้นรถ รถมาแล้ว"ปอนด์ผู้ปากร้ายพูดพร้อมกับดันพวกเราทั้งสามคนขึ้นมาบนรถเมย์ สายที่คนแน่นที่สุด! "เกลียดที่นี่ กรี๊ดดด!!"อันนี้แค่คิดเฉยๆกรี๊ดไม่ได้ คนเต็มรถ "ทำไมเรา จะต้องมาสอบติดไอ้มหาลัยบ้าบอนี้เป็นที่เดียวด้วยนะ ที่อื่นที่อยากเรียนตั้งมากมายดันสอบไม่ติดไอ้ที่เกลียดสุดๆเพราะมันอยู่ที่กรุงเทพฯนี่สิ ทำไมต้องติดด้วยก็ไม่รู้ แล้วดันติด ด้วยกันทั้งสี่คนด้วยนะ" "เราสี่คนขึ้นมายืนโหนรถเมล์ อยากจะบอกเหลือเกินว่าเรานั้นตัวเตี้ยที่สุดในกลุ่ม จะคว้าราวโหนทีไรก็คว้าไม่ถึงต้องหันไปคว้าแขนเพื่อนทุกที!!" "อีกประมาณสิบห้าทีจะถึงเวลารับน้องของพวกเราอยู่แล้ว ตอนนั้นแอบกระวนกระวายเล็กน้อยไม่รู้ว่ารถจะติดมากน้อยแค่ไหนแต่ไม่ถึงสามกิโลเมตรก็จะถึงอยู่แล้ว" "ตอนนั้นเรายืนจับแขนเพื่อนอยู่ตามปกติแต่ด้านหลังของเรามันมีผู้ชายคนหนึ่งใส่เสื้อช็อปสีน้ำเงินใส่หูฟัง ท่าทางของเขาทั้งดูสมาร์ท ขาว คม จมูกโด่ง ปากอิ่มน้ำมาก ดูรวมๆแล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน! พอเราหันไปมองป้ายชื่อของเขาก็เห็นได้ชัดเลยว่าเขาเป็นเด็กมหาลัยเดียวกับเรา ดูเผินๆเค้าขื่อปกป้อง แต่ดูแล้วน่าจะโตกว่าเรานะ รูปร่างหน้าตาของเขามันดึงดูดเรามากจนเราไม่อาจละสายตาไปจากเขาได้จนมันมีจังหวะหนึ่งที่เราไม่ทันได้ตั้งตัวเพราะมัวแต่มองหน้าของเขาอยู่" "เอี๊ยดดดด ฟู่!" "รถเมล์จอดรับคน จังหวะที่รถมันเบรคมันทำให้เราไม่ทันตั้งตัว มือของเราหลุดออกจากแขนปอนด์จนทำให้เราแทบไถลไปด้านหลังแต่ก็มีอะไรบางอย่างมารับเอาไว้!" "ปั๊ก!!" "โอ๊ย ขอโทษค่ะ" เรารีบขอโทษเขาทันทีเพราะเราไถลไปชนกับหน้าอกของเขาโดยที่หน้าผากของเรามันชนไปเต็มๆกับแผงอกเลย มันทำให้เราได้สูดกลิ่นหอมๆจากผู้ชายคนนี้แต่ดูหน้าของเขาแล้วไม่ค่อยรับแขกเท่าไหร่ "ผู้ชายคนนั้นพยักหน้าเชิงรำคาญ หงุดหงิด แล้วเหวี่ยงสายตาไปทางอื่น" "เราเอามือลูบหน้าผากจนหันไปเห็นสายตาของซี มันมองมาที่เราแล้วหรี่ตาจับผิด" "จนจะถึงมอ วันนี้เกือบเป็นวันที่ดีของเรา แต่สุดท้าย ก็ไม่!!" "เมื่อรถมาจอดที่ป้ายรถเมล์หน้า มหาลัย นักศึกษาก็พากันทนอยลง ส่วนเรากับเพื่อนก็ต้องต่อคิวเพื่อจะลง เราอยู่เกือบท้ายรถ ตามด้วยนายรูปหล่อคนนั้น จนถึงคิวที่เพื่อนของเรามันลงรถ เราก็เดินตามต้อยๆ แต่!" "ครืดดดด เอี๊ยดดด! กรี๊ดดดด โครม!" "จุ๊บ!" "ฟิ้ง" "ดวงตาทั้งสองของเราเบิกโพรง เมื่อภาพตรงหน้าคือเรากำลังนอนทับร่างของผู้ชายคนนั้นอยู่ โดยที่ปากของเราทั้งคู่ประกบกันอยู่!" "ผู้ชายคนนั้นมองเราอึ้งๆ เมื่อเราเห็นแบบนั้นก็รีบหลับตาปี๋ทันที" "ไม่นะนี่จูบแรกของชั้น!!" "นี่! ออกไป"เสียงแข็งแล้วพยายามดันตัวเรา "เชี้ย! แสน!!"ซีพูดพร้อมกับวิ่งขึ้นรถเมล์มาดึงตัวเราให้ลุกขึ้น "เรายังคงไม่ยอมลืมตา และหลับตาปี๋อยู่อย่างนั้น" "ลุก! หนัก!"ผู้ชายคนนั้นเหวี่ยงเสียงขั้นสุดแล้วพยายามลุกขึ้นนั่ง "ทันทีที่คำว่าหนักมันเปล่งออกมา มันทำให้เราปรี๊ด!" "ไอ้บ้า ฉวยโอกาส จูบแรกของฉันเลยนะ"เราตะโกนออกไปพร้อมดิ้นแด่วๆไปมา" "เพ้อเจ้อ!" อยู่ๆผู้ชายคนนั้นก็สวนกลับมาเสียงเรียบแล้วลุกขึ้นไม่สบอารมณ์เดินลงจากรถไปเลย "มึง ไป! ลงรถ อายเค้า"ซีพูดพร้อมดึงเราลงจากรถ "ดึงกูทำไมอะซี โถ่เอ๊ย"เราโวยวายออกมาด้วยความหัวเสีย "มึงดูสิ จูบแรกของมึง ตะโกนสะดังเค้าได้ยินกันทั้งรถแล้วเนี่ย"ทันทีที่ซีพูดประโยคนั้นออกมา เราเยหันไปมองบนรถ "อื้อหือ" "หมับ!! เราถึงขั้นต้องเอากระเป๋าปิดหน้า" "เห้ย แสนดี ปากแตก"ทิมพูดพร้อมกับชี้ลงที่ปากเรา "จริงดิ"เราสบถออกมาแล้วใช้มือคลำๆที่ปาก "ซี๊ดดด" "เออ! เนี่ย" ปอนด์พูดพร้อมขวักทิชชู่ออกมาเช็ดเลือดให้เรา แสบชะมัด "วันแรกก็ปากแตกสะแล้ว ไม่ใช่ลางดีแน่" "หลังจากที่เห็นว่าตัวเองปากแตกเราก็เช็ดๆแล้วเตรียมตัวจะเดินไปที่ตึกเรียน" "ตอนนั้นพวกเราพากันเดินกันอย่างรีบเร่งแต่ก็ต้องหยุดชะงักลงเพราะโทรรศัพท์มือถือของพวกเราทั้งสี่คนกำลังสั่นระรัวและส่งเสียงดังขึ้นอย่างพร้อมเพียง" "เราหยุดเดินแล้วก้มหยิบมือถือในกระเป๋าใบโต แล้วหยิบขึ้นมา" "เมื่อหยิบขึ้นมาหน้าจอก็แสดงข้อความเตือนจากกรุ๊ปไลน์ @ITCompGroup" "พี่ปราง(พี่สาขา) : ตอนนี้ขาดน้องอีกสี่คนนะคะ เพื่อนๆเดินทางมาถึงกันแล้ว ใกล้เวลาแล้วนะคะ รีบหน่อยนะ พี่ใหญ่เค้าตรงเวลา" "มึง พี่เค้าตามแล้วอะ ทำไงดี เราจะเดินไปทันไหม" ปอนด์ถามแล้วทำหน้าตื่นเต้น "ตอนนี้กี่โมงแล้ว"เราพูดขึ้นแต่ก็ไม่ลืมที่จะยกแขนซ้ายขึ้นมาดูนาฬิกา "อีกสองนาทีเก้าโมง!"ทิมพูดพร้อมทำสีหน้าตกใจอย่างเห็นได้ชัดมาก "ห้ะ!!"พวกเราทึกคนต่างสบถออกมาเป็นคำๆเดียวกัน "ก็นี่ไง แหกตาโตๆดูกันสิ" ทิมพูดพร้อมยื่นนาฬิกามาให้เราดู "ตายละ พี่เค้ายิ่งเน้นอยู่ว่าวันนี้ห้ามสาย ไป!" เราพูดขึ้นเพราะจำคำพี่ปรางได้ขึ้นใจแถมส่งข้อความมาย้ำแบบนี้ ไม่ตายดีแน่พวกเรา สี่คนเราสะด้วย! "กรี๊ดดดด" ซีกรี๊ดออกมาพร้อมถกกระโปรงเตรียมสิ่ง ส่วนเราถกรออยู่แล้ว งานนี้เกียร์หมาคงไม่ปาน "เมื่อเวลามันเหลือแค่สองนาที พวกเราก็รีบสับแหลกไปยังตึกเรียนทันที! เราวิ่งกันมาสี่คน พอมาถึงก็เห็นลางๆแล้วว่า พี่ๆกำลังเรียกรวมอยู่ ซึ่งเรารู้จักพี่สาขาแค่คนเดียวคือพี่ปรางคนสวย!" "เฮือก เอาไงดี พี่ๆเค้าเรียกรวมแล้วอะ" ปอนด์ถามสีหน้าเป็นกังวลแล้วเอื้อมมือมาจับมือเรา "เค้าคงไม่ดุขนาดนั้น แค่หนึ่งนาทีเอง ไปเหอะ"เราพูดออกมาเพื่อเป็นการปลอบเพื่อนแต่ก็กลัวอยู่ลึกๆ สังคมใหม่ๆ ไม่เคยเจอ "พูดจบเราก็พากันวิ่งมายังจุดรวมปีหนึ่ง เราและเพื่อนกำลังจะย่อตัวลงไปนั่งแต่!" "พวกคุณ หยุดครับ"พี่ผู้ชายคนหนึ่งดูเข้มๆหน่อยสั่งให้พวกเราหยุด เราก็หยุด หยุดกันหน้าแทบทิ่ม แต่เฮ้ย! พอเรามอง นั่นมันไอ้ผู้ชายคนนั้นนี่หว่า! "ฮึบ"เราได้แต่ยืนนิ่งกับเพื่อนของเราตามคำสั่งไอ้ผู้ชายหน้าขาวตรงหน้า "นี่กี่โมงครับ?"ถามพร้อมแหงนมองนาฬิกา "เก้าโมงหนึ่งนาทีครับพี่"ทิมตอบแล้วกลืนน้ำลายอึกใหญ่ "พวกผมนัดพวกคุณกี่โมง"พี่ผู้ชายถามต่อ "เก้าโมงค่ะพี่"ซีตอบพลางก้มหน้าไม่สบตาพี่ผู้ชายเลย "พวกคุณสายหนึ่งนาที เป็นหนึ่งนาทีที่เพื่อนของคุณมารวมตัวกันจนครบ ใช้ได้หรอครับ!"พี่ผู้ชายถามหน้านิ่งแล้วสบตาเรา "ไม่ ไม่ ไม่ เราต้องไปสบตาเค้า เดี๋ยวเค้าจำเราได้" "ตึก ตึก ตึกเสียงหัวใจจองเราเหมือนจะดื้อไม่ยอมฟัง สมองสั่งให้หลบ หัวใจมันดื้อจะสบตาเค้าท่าเดียว กลับไปจะควักกินเลยคอยดู" "คุยกับผม สบตาด้วย ผมไม่ใช่พี่ว๊าก ไม่ต้องสั่น!"พูดเสียงเรียบ "พวกเราพยักหน้าตอบอย่างเดียว" "ขอเหตุผลดีๆสักข้อว่าทำไมคุณถึงมาสาย"ถามเสียงเข้ม "สะดุดล้มทับหมาค่ะพี่"ปากมันตอบไปแบบไม่คิด เพราะไม่รู้จะตอบอะไร สมองไม่ได้สั่ง หัวใจก็ไม่ได้สั่ง ไหงปากมันปีจอขนาดนี้! "ฟิ้งงง! เหมือนมีสายตามาฟาดฟันเราทันที" "อิแสน!! มึงจำเค้าไม่ได้หรอ มึงพึ่งเอาปากตัวเองไปฟาดกับเค้ามานะ ลืมรึไง"ซีกระซิบเราหน้าเสียเชียว "ก็กูตื่นเต้นนิ!"กระซิบตอบ "ถ้ามีเรื่องคุยกันมากขนาดนั้น รบกวนไปคุยกันที่บ้าน เชิญนั่งครับ!"ทำหน้านิ่งแล้วเดินออกไป พี่คนอื่นก็เข้ามาแทน "สวัสดีค่ะน้องๆ น้องๆจำพี่ได้ไหมเอ่ย"พี่ปรางเดินถือโทรโข่งเข้ามาแล้วพูดกีบพวกเราเสียงหวาน "จำได้ครับ,จำได้ค่ะ"พวกเราทั้งสามสิบคนพร้อมใจกันตอบ "ค่ะ ดีใจจังที่จำได้ แนะนำตัวอีกทีนะคะ พี่ชื่อพี่ปรางเป็นพี่สาขาเบอร์หนึ่ง วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรก เราต้องมาทำความรู้จักกันก่อนนะคะ พี่จะให้พวกพี่ๆเค้าแนะนำตัวกันก่อนว่าใครเป็นใคร โอเคไหมคะน้องๆ" "โอเคครับ,ค่ะ" "หลังจากนั้นพี่ๆก็เริ่มแนะนำตัวกันทันที พี่ๆเค้าแนะนำตัวกันไปหลายต่อหลายคน จนมาถึง 6 คนสุดท้าย พวกเค้าเป็นพี่ที่จะมีส่วนร่วมกับพวกเราค่อนข้างเยอะ" "สวัสดีครับ พี่ชื่อทิวนะครับน้องๆ เป็นพี่สาขาเบอร์สอง ที่จะมาดูแลน้องๆในช่วงนี้ ยินดีต้อนรับนะครับ"พี่หน้าตี๋คนนึงพูดขึ้นพร้อมยิ้มให้พวกเรา พูดจบก็ยื่นโทรโข่งให้พี่คนถัดไป "สวัสดีค่ะน้องๆพี่เป็นพี่สันทนาการชื่อว่าพี่ออนนะคะ ไว้เจอกันนะเด็กๆ" "ครับ ค่า"

รายละเอียด

ISBN : 231025411441

วันวางขาย :

จำนวนหน้า : 150 หน้า

ประเภทไฟล์ : PDF

ขนาดไฟล์ : 22.76 MB

ประเทศ : TH

ภาษา : Thai

จากผู้แต่ง

กำลังโหลด ...

จากสำนักพิมพ์ panitataifoun23gmailcom

กำลังโหลด ...

ให้ 5 คะแนน

ส่งคะแนน

ส่งรีวิว

popup